ทราบกันหรือไม่ว่ากลยุทธ์หรือเทคนิคการบริหารเงินหน้าตัก เช่นมาร์ติงเกล พาโรไล หรือที่บางคนอาจจะเรียกว่าสูตรพนัน สูตรสล็อต เทคนิค บาคาร่า สามารถแบ่งออกได้เป็นสองชนิดคือการวางเงินแบบ negative progression และ positive progression ความหมายก็ค่อนข้างตรงตัวคือฝ่าย negative จะทำการเพิ่มเงินเดิมพันหรือ progress ขึ้นไปทุกครั้งที่ยอดรวมเกิดการติดลบขึ้น และกลับกัน สำหรับ positive ก็จะให้ผู้เล่นทำการเพิ่มเงินเดิมพันขึ้นไปในทางเดียวกันกับเงินทุนที่เป็นไปในทางบวก ซึ่งฟังดูแล้วอาจจะเหมือนกับว่ากลยุทธ์การเดินเงินแบบ positive น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า negative ที่เป็นผลลบ แต่มันกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป

ที่บอกว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้นเพราะว่าคำว่าบวกและลบของชื่อเรียกวิธีการเดินเงิน ไม่ได้มีผลอะไรกับ mechanic การทำงานของกลยุทธ์ดังกล่าวแต่อย่างไร เพียงแค่แนวคิดในการบริหารจัดการความเสี่ยงของสองวิธีนี้จะเป็นไปในทางตรงกันข้ามเท่านั้นเอง หากจะยกตัวอย่างก็อย่างเช่น martingale และ paroli โดยที่มาร์ติงเกลจะเป็น negative คือทุกครั้งที่เล่นแพ้และเงินติดลบ ให้ทบเข้าไปทันที เพื่อให้เงินไม่ติดลบและกลับมาบวกให้ไวที่สุด และจะไม่ทำให้เกิดการวิ่งขึ้นลงของเงินทุน แต่จะเป็นไปในทางบวกเท่านั้น ถ้าหากว่าสามารถทำได้ตามเงื่อนไขทั้งหมดของวิธีการ ส่วน palori ที่อยู่ในฝั่งของ positive จะเน้นที่การเสียน้อยและรับเยอะแทน โดยที่สามารถปล่อยให้เกิดการวิ่งขึ้นลงของเงินทุนได้ โดยจะมุ่งเน้นไปที่การชนะด้วยเงินเดิมพันที่สูงและถ้าจะแพ้ให้แพ้ด้วยเงินขั้นต่ำแทน เหมือนอย่างที่ parole จะให้คูณเงินเดิมพันเพิ่มเข้าไปทุกครั้งที่ชนะและวนกลับมาเริ่มที่เงินเริ่มแรกเมื่อชนะติดต่อกัน 3 ครั้ง นั่นเพราะต้องการป้องกันไม่ให้คูณเยอะเกินไปแล้วไปแพ้เอาในเกมหลังที่เงินเดิมพันเพิ่มจากเงินเริ่มต้นไปเยอะแล้ว และยากที่จะถอนทุนคืนด้วยวิธีเดียวกัน

ทีนี้เราลองมาดูกันว่านิสัยและพฤติกรรม รวมไปถึงโจทย์ความต้องการของคุณสามารถเข้าถึงได้หรือไม่ ประเด็นแรกคือเรื่องของระยะเวลาและจำนวนเกม ซึ่ง palori ไม่สามารถกำหนดจำนวนเกมที่แน่นอนในการเล่นได้ เพราะไม่มีการทบต้นเพื่อเอาทุนคืนมา และเมื่อเป็นเช่นนั้นเงินทุนก็จะวิ่งขึ้นวิ่งลง โดยที่มีแนวโน้มจะเป็นไปในทางบวกมากกว่าเพราะทุกครั้งที่ชนะ ถ้าหากเริ่มต้นเล่นด้วยเงิน 2 หน่วย เงินทุนจะสามารถเพิ่มไปได้สูงถึง 14 หน่วยต่อรอบ  ( 2+4+8 ) ในขณะที่ในการแพ้จะติดลบแค่ทีละ 2 แต้มเท่านั้นในกรณีที่แย่ที่สุด ( 2+4-8 ) ซึ่งเป็นจุดแข็งของวิธีการนี้ คือการรักษาเงินทุนเริ่มแรกไม่ให้กลายเป็น 0 หน่วยได้ง่ายๆ แลกมาด้วยเวลาที่ต้องใช้เล่นที่ค่อนข้างมาก เพราะไม่มีจำนวนเกมที่ตายตัวในการทำกำไรให้ถึงเป้าหมาย ดังนั้นถ้าคุณไม่รีบ และรับได้กับการเดินวนไปมาของเงินทุน วิธีนี้ก็จะเหมาะกับคุณ แต่ถ้าคุณต้องการเกมที่กระชับและให้ผลตอบแทนที่คาดหวังได้และมีกรอบระยะเวลาในการเล่นที่แน่นอน ก็จะขอให้ลองวิธีอื่นก่อนจะดีกว่า